• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน ร่วมสร้างจิตสำนึกสงวน $$

Started by Chanapot, Jul 07, 2025, 06:24 PM

Previous topic - Next topic

Chanapot

มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน



เกี่ยวกับมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ร่วมสร้างสามัญสำนึกอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
มูลนิธิไทยรักษาป่า ก่อตั้งขึ้นจากเป้าหมายของเอ็กโก กรุ๊ป ที่จะส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมและก็ผืนป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญของประเทศให้กำเนิดความทนทาน เพื่อร่วมเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูเขาไม่พลอดุลยบารมีมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แล้วก็สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชแม่พันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นอย่างมากต่อการอนุรักษ์และรักษาป่า

มูลนิธิไทยรักษาป่ามุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้กำเนิดความร่วมแรงร่วมใจสำหรับในการสร้างโครงข่ายการปลูกความสำนึกแห่งความรักษ์ป่า โดยร่วมมือและก็ส่งเสริมเครือข่ายต่างๆตลอดจนช่วยเหลือการมีส่วนร่วม

โครงงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า

- ด้านการผลิตความเข้มแข็งเครือข่ายชุมชน
การทำงานระดับโครงข่ายแถบที่ลุ่ม สร้างความเป็นเจ้าของร่วมในทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าในแถบที่ลุ่มร่วมกัน เกิดความแข็งแรงในการบริหารจัดการ อันเป็นการรักษาทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

- ด้านการปลูกสามัญสำนึกเยาวชนแล้วก็สามัญชน
การนำวิชาความรู้และความสวยงามของผืนป่ามาเป็นแหล่งศึกษา โดยการพัฒนาทางเพื่อผู้คนเดินทางเข้าหาธรรมชาติ นำไปสู่จุดเริ่มแรกของความรักและก็หวงทรัพยากรธรรมชาติ

- ด้านการรักษารวมทั้งฟื้นฟู
"คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้" เป็นแนวทางสำคัญของแผนการฯ โดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่งแล้วก็ผลักดันคุณภาพชีวิต มูลนิธิไทยรักษ์ป่า พร้อมด้วยสนับสนุนให้ชุมชนรักษารวมทั้งอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน

จุดสำคัญของป่าต้นน้ำในระบบน้ำฝนแล้วก็การอนุรักษ์น้ำ

ป่าต้นน้ำ คือผืนป่าในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 700 เมตรขึ้นไป เป็นต้นตอของแม่น้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงที่ราบลุ่มตอนล่าง รวมทั้งเป็นต้นทางของน้ำที่สะอาดที่จำเป็นต้องต่อทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือพืช

ป่าต้นน้ำปฏิบัติภารกิจเสมือน "โรงงานผลิตน้ำจืดธรรมชาติ" ที่ทำงานอย่างไม่มีทางหยุด ด้วยขั้นตอนการดูดซึม กักเก็บ และปล่อยน้ำอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาความชื้นของระบบนิเวศ รวมทั้งควบคุมสภาพภูมิอากาศให้สุภาพ



ความสำคัญของป่าต้นน้ำต่อระบบนิเวศและก็การกักเก็บน้ำธรรมชาติ

ป่าต้นน้ำเป็นพื้นที่ป่าดงที่อยู่บริเวณต้นน้ำ มักอยู่ในเขตพื้นที่สูงหรือเทือกเขาที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายหลัก บทบาทสำคัญของป่าต้นน้ำมีหลายประการ ดังนี้

1. กรรมวิธีการซับแล้วก็เก็บกักน้ำฝนของป่าต้นน้ำ
เมื่อฝนตกลงมา พืชและก็ต้นไม้ในป่าจะช่วยชะลอการไหลของน้ำฝน เรือนยอดของต้นไม้สามารถดักน้ำฝนได้ถึง 20-30% ที่เหลือจะไหลลงสู่พื้นดิน โดยระบบรากของพืชและก็ชั้นสารอินทรีย์บนพื้นป่าจะปฏิบัติหน้าที่ราวกับฟองน้ำธรรมชาติ ซึมซับน้ำฝนรวมทั้งเบาๆปลดปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากภาพประกอบจะเห็นว่า ป่าต้นน้ำมีพืชหลายประเภท โดยมีราก ใบไม้ และก็ซากพืชทับถมกันเป็นชั้นดกบนพื้นป่า ช่วยให้น้ำฝนซึมลงดินช้าๆแทนที่จะไหลบ่าไปอย่างเร็วกระทั่งเกิดน้ำหลากเฉียบพลัน ป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 2-3 เท่าของน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่

2. หน้าที่ของพืชพรรณสำหรับเพื่อการอนุรักษ์น้ำรวมทั้งควบคุมการไหลของน้ำ
พรรณไม้ในป่าต้นน้ำมีความมากมายหลายและแต่ละชนิดมีบทบาทแตกต่างในการรักษาน้ำ
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ (500 จำพวก): รากแก้วหยั่งลึกช่วยเจาะชั้นดินรวมทั้งหิน ทำให้น้ำซึมลงสู่ชั้นใต้ดินก้าวหน้า
พืชพื้นด้านล่าง (18,000 ประเภท): ช่วยปกคลุมดิน คุ้มครองป้องกันการชะล้างพังทลาย
กล้วยไม้และพืชอิงอาศัย (1,000 จำพวก): ช่วยดักจับความชื้นในอากาศ
พืชเครือญาติมอสรวมทั้งไลเคน (2,000 ชนิด): เปรียบฟองน้ำขนาดเล็ก สามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวหลายเท่า

3. ระบบน้ำใต้ดินรวมทั้งการเติมน้ำลงสู่ชั้นหินอุ้มน้ำ
น้ำฝนที่ซึมผ่านชั้นดินในป่าต้นน้ำจะถูกกรองให้สะอาดและก็เบาๆไหลซึมออกลงสู่ชั้นหินซับน้ำใต้ดิน (Aquifer) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำรองตามธรรมชาติ จากภาพจะมีความคิดเห็นว่ามีชั้นหินซับน้ำใต้ดินที่เก็บกักน้ำไว้ถึง 60,000 ประเภท และก็ยังมีสัตว์ใต้ดินอีกกว่า 350 ชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศใต้ดินนี้ น้ำที่ถูกเก็บไว้ภายในชั้นหินซับน้ำจะเบาๆซึมออกมามาเป็นน้ำพุ ตาน้ำ หรือน้ำซับ แปลงเป็นแหล่งกำเนิดของสายธารรวมทั้งแม่น้ำ ทำให้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีแม้ในช่วงฤดูแล้ง

4. ผลกระทบจากการสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำต่อระบบน้ำธรรมชาติ
การตัดต้นไม้ทำลายธรรมชาติ การบุกรุกพื้นที่เพื่อทำสวน และการพัฒนาที่ไม่นึกถึงระบบนิเวศ ทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อป่าต้นน้ำแล้วก็ระบบน้ำธรรมชาติอย่างรุนแรง

5. การปรากฏน้ำท่วม-น้ำแล้งจากการสูญเสียป่าต้นน้ำ
เมื่อป่าต้นน้ำถูกทำลาย ความสามารถสำหรับการเก็บกักน้ำจะน้อยลงอย่างมาก น้ำฝนจะไหลหลาก มูลนิธิไทยรักษ์ป่า อย่างเร็วลงสู่พื้นที่ต่ำ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดน้ำท่วมกะทันหันในฤดูฝน เวลาที่ในช่วงฤดูแล้ง จะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง เนื่องมาจากไม่มีการกักเก็บน้ำไว้ในระบบ งา นวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า พื้นที่ที่มีป่าต้นน้ำถูกทำลายไปมากกว่า 50% จะกำเนิดน้ำท่วมรุนแรงในฤดูฝนแล้วก็ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งมากขึ้นถึง 3-5 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ยังมีป่าต้นน้ำสมบูรณ์

6. การเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพน้ำแล้วก็ผลต่อระบบนิเวศทางทะเล
เว้นแต่ปัญหาปริมาณน้ำแล้ว การสูญเสียป่าต้นน้ำยังมีผลต่อประสิทธิภาพน้ำด้วย น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่เกษตรกรรมมักปนเปื้อนสารเคมีและขี้ตะกอนดิน เมื่อไม่มีป่ารอกรองและก็ดักจับสิ่งเหล่านี้ น้ำในแม่น้ำลำธารก็เลยมีคุณภาพลดลง ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำแล้วก็การใช้ประโยชน์ซึ่งมาจากมนุษย์ งานศึกษาของกรมอุทยานแห่งชาติพบว่า แม่น้ำที่มีต้นน้ำอยู่ภายในเขตพื้นที่ป่าสมบูรณ์จะมีค่าออกสิเจนละลายน้ำ (DO) สูงขึ้นยิ่งกว่า และก็มีปริมาณตะกอนแขวนลอยต่ำยิ่งกว่าแม่น้ำที่มีต้นน้ำจากพื้นที่ทำการเกษตรหรือพื้นที่ที่ป่าถูกทำลาย

ป่าต้นน้ำเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการอนุรักษ์และรักษาน้ำฝนตามธรรมชาติ  มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ปฏิบัติหน้าที่เปรียบเสมือนโรงงานผลิตน้ำจืดที่ดูดซึม เก็บกัก และก็เบาๆปล่อยน้ำออกมาอย่างสม่ำเสมอ การสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำส่งผลให้เกิดปัญหาอุทกภัย น้ำแล้ง และการขาดแคลนลานน้ำ

การรักษารวมทั้งฟื้นฟูป่าต้นน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน โดยจะต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งยังภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งชุมชนแคว้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีรวมทั้งนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะควร

ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ป่าต้นน้ำยิ่งทวีจุดสำคัญเยอะขึ้น ในฐานะกลไกธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบนิเวศและก็บรรเทาผลพวงจากภัยพิบัติทางเรือ



การลงทุนในการรักษาป่าต้นน้ำก็เลยไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่เป็นการลงทุนเพื่อความยั่งยืนมั่นคงทางเรือ  มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และก็ของกินของประเทศในระยะยาว

ขอบคุณสำหรับที่มา https://thairakpa.org/